เป็นเรื่องย้อนอดีตที่ พอล เอดจ์คอมบ์ เล่าให้ อีเลน คอนเนลลี่ เพื่อนหญิงที่พักอยู่ที่บ้านพักคนชราฟัง เขาอยู่ที่นี่มานานกว่า 60 ปีหลังจากเกษียณ เขาเคยทำงานเป็นหัวหน้าผู้คุมนักโทษประหารที่ Cold Mountain Penitentiary หนังการตูนออนไลน์
เรื่องราวของจอห์น คอฟฟี่ (Michael Clark Duncan) โดย พอล เอดจ์คอมบ์ (Tom Hanks) หัวหน้าผู้คุมนักโทษในแดนที่เรียกว่า the green mile (เป็นคำที่ใช้เรียกทางเดินสีเขียวที่นักโทษเดินผ่าน จากห้องขังไปยังห้องประหาร) ในยุคที่เต็มไปด้วยการกดขี่และแบ่งแยกสีผิวในอเมริกา โดยพอลต้องเผชิญกับความทุกข์ทรมานจากโรคในกระเพาะปัสสาวะ แต่ก็อดทนปฏิบัติหน้าที่ตามปกติในฐานะหัวหน้าที่ดีทั้งกับลูกน้องและนักโทษ จนกระทั่งวันหนึ่ง ทุกสิ่งทุกอย่างที่เคยปกติก็ได้เปลี่ยนไป เมื่อ จอห์น คอฟฟี่ นักโทษผิวดำร่างยักษ์ ที่ถูกตัดสินประหารชีวิตในคดีข่มขืนและฆ่าเด็กหญิงผิวขาว 2 คน ได้ถูกนำตัวเข้ามาคุมขังที่กรีนไมล์เพื่อรอวันประหาร
ด้วยรูปลักษณ์ภายนอกที่น่ากลัวของคอฟฟี่ การจะฆ่าใครสักคนโดยเฉพาะเด็กหญิงคงไม่ใช่เรื่องยาก แต่สิ่งที่พอลได้สัมผัสกลับแตกต่างไปโดยสิ้นเชิง เพราะแท้จริงนั้น จอห์น คอฟฟี่กลับเป็นคนที่ซื่อใส จิตใจอ่อนโยน และเป็นห่วงเป็นใย แต่นั่นยังเทียบไม่ได้กับพรวิเศษที่จอห์น คอฟฟี่มีอยู่ จอห์นรับรู้ถึงความทุกข์ทรมานของผู้อื่น จึงได้สร้างปาฏิหาริย์ที่เกินจะอธิบาย เพื่อมอบชีวิตใหม่ให้ผู้ที่เผชิญความเจ็บปวด ด้วยการรับความเจ็บปวดนั้นมาไว้เอง หนึ่งในผู้ที่ได้รับปาฏิหาริย์นั้นก็คือพอล ซึ่งจอห์นช่วยเขาไว้จนโรคที่คอยสร้างความทุกข์ให้เขามานานนั้น ฉับพลันก็หายเป็นปลิดทิ้ง ทำให้ทั้งพอลและผู้คุมคนอื่นๆต่างสงสัยและแทบไม่อยากจะเชื่อว่า บุคคลที่มหัศจรรย์และจิตใจแสนงดงามผู้นี้จะสามารถก่อคดีสุดโหดขนาดนั้นได้จริงๆหรือ?
แต่ไม่ว่าพอลและพวกจะขัดข้องใจเพียงใดก็ตาม ก็ไม่อาจจะเปลี่ยนแปลงความจริงที่ว่า จอห์นได้ถูกตัดสินโทษไปแล้ว และในวันที่เขาต้องรับโทษประหาร ด้วยการนั่งเก้าอี้ไฟฟ้า จึงเป็นวันที่เหล่าผู้คุมทุกคนตรงนั้น ไม่อาจจะกลั้นน้ำตาเอาไว้ได้ และชื่อของจอห์น คอฟฟี่ จะตราตรึงในความทรงจำของพวกเขาไปตลอดกาล
หนังเรื่องนี้ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก ทั้งรายได้และคำวิจารณ์ ด้วยพล็อตที่หนักอึ้งแต่เดินเรื่องได้น่ารักและเข้าใจง่าย การเล่าเรื่องเริ่มต้นอย่างหดหู่ด้วยฉากหลังที่เป็นคุกดำมืด แต่สถานการณ์ที่ผู้คุมและนักโทษ รวมถึง Mr.Jingles ที่จำต้องมาใช้ชีวิตด้วยกันก็ค่อยๆสร้างความอบอุ่นในใจมากขึ้นเรื่อยๆตามเวลาที่ดำเนินไป พร้อมๆกับความอัดอั้นในความรู้สึกที่หนักหน่วงมากขึ้นตามลำดับ
Michael Clark ผู้รับบทจอห์น คอฟฟี่ (เสียชีวิตแล้วเมื่อปี 2555) ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์จากเรื่องนี้ ด้วยการแสดงที่ทรงพลัง ในบทนักโทษรูปร่างหน้าตาไม่น่าพิศมัยแต่ได้ใจคนดู เขาทำให้พวกเราหลงรักและสัมผัสได้ถึงความดีงามในจิตใจของคอฟฟี่ และคอยลุ้นเอาใจช่วย ให้ฆาตกรตัวจริงถูกจับมารับโทษเสียที
No comments:
Post a Comment