Another Earth ณ อีกโลกหนึ่ง มีอะไรอยู่

โลกที่เราอยู่ทุกวันนี้ มีอยู่โลกเดียวหรือเปล่า แล้วยังมีอีกโลกที่เหมือนกับโลกของเราหรือเปล่า มีเราอยู่บนโลกใบนั้นหรือเปล่า และเราคนนั้นจะมีความคิดและประสบการณ์เหมือนๆ กับเราหรือเปล่า เป็นคำถามที่อาจจะวนเวียนอยู่หัวเรามานาน จนถึงวันที่ได้ชมภาพยนตร์เรื่องนี้ “Another Earth” รีวิวหนังใหม่

โลก รวมทั้งมีกิจกรรมส่งคนไปที่ดวงดวงนั้น ด้วยความทรงจำจากอดีตที่ยังไม่ลบเลือน โรด้าร่วมสนุกกับกิจกรรมนี้ เพื่อหวังว่าจะพาตัวเองหนีไปจากโลกใบเก่าที่เต็มไปด้วยสิ่งไม่น่าจดจำ ในขณะเดียวกันความสัมพันธ์ของเธอกับจอห์นก็แน่นแฟ้นมากขึ้น ท้ายที่สุดโรด้าก็ถูกรับเลือกให้เดินทางไปยังดาวคู่แฝด แต่…

 

ทุกคนมีโอกาสทำสิ่งที่ผิดพลาด และความผิดพลาดก็มักจะก่อให้เกิดผลลัพธ์เลวร้ายที่ยากจะแก้ไข ซึ่งกลายเป็นความทรงจำที่เจ็บปวดในความรู้สึกที่ไม่ใช่เฉพาะกับฝ่ายกระทำ กับคนที่ต้องรับผลจากการกระทำ ก็เจ็บปวดทนทุกข์ไม่แพ้กัน ต่างสูญเสียมาก น้อยก็พอๆ กัน เช่นในหนังเรื่องนี้ จอห์นสูญเสียครอบครัว ที่ส่งผลให้สูญเสียงาน สูญเสียความสดใสในชีวิต กับโรด้าก็ไม่ต่างกัน เธออาจจะมีครอบครัวอยู่ครบ แต่ก็เหมือนเป็นคนแปลกหน้าในชีวิตตัวเอง สูญเสียอนาคตกับการเรียนในมหาวิทยาลัยที่ดี ที่น่าจะหมายถึงชีวิตที่ดี ไม่ต่างกัน

ขณะที่ฝ่ายแรกทนทุกข์กับความผิด และต้องการการแก้ไข อีกฝ่ายก็ต้องการการเยียวยาเพื่อจะให้ลุกขึ้นยืนพ้นจากความทุกข์ที่เกาะกินให้ได้ แต่หลายต่อหลายครั้ง โอกาสไม่เคยเปิดให้ และหลายต่อหลายหนบางคนก็ไม่เคยเปิดรับให้โอกาสกับอีกฝ่าย

 

เห็นได้ชัดว่าชีวิตหลังความผิดพลาด ล้วนต้องการโอกาส ที่เป็นไปได้ทั้งหมดว่าอาจจะเป็นเรื่องของการให้อภัย การสารภาพ การยกโทษ การทำบางอย่างให้ หรือว่าการ “เสียสละ” ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลที่ไม่จำเป็นต้องรวมถึงการให้อภัยก็ยังได้ ก็คือการให้โอกาสทั้งกับตัวเองและอีกฝ่าย เปิดทางให้ทั้งคู่ได้พบกับโลกอีกโลกหนึ่ง ได้มีชีวิตอีกครั้งหนึ่งไปพร้อมๆ กัน และการสูญเสียที่เป็นการ “ให้” ย่อมทำให้ได้รับผลตอบแทนที่งดงามกลับมาเสมอ

Another Earth อาจจะไม่ใช่งานไซ-ไฟที่เปี่ยมสีสันฉูดฉาด ไม่มีฉากอวกาศที่หวือหวา ไม่ใช่งานที่น่ารื่นรมย์นัก เมื่อชีวิตของตัวละครหลักทั้งสองคนล้วนจมอยู่กับอดีตที่ไม่อาจหวลคืน และไม่อาจแก้ไขได้ ยกเว้นว่าจะก้าวผ่านมันไป แต่ก็เล่าเรื่องราวแบบง่ายๆ ตรงไปตรงมาแบบงานทุนต่ำได้อย่างน่าติดตาม มีแง่มุมที่คมคาย เอาเรื่องราวหนักๆ ของชีวิตมาใส่ไว้ภายใต้เสื้อทรงของงานไซ-ไฟได้อย่างกลมกลืน ก่อนที่จะจบปิดท้ายแม้จะไม่ได้ความกระจ่าง แต่ด้วยความหวัง และความงดงาม ของโอกาสที่ตัวละครเปิดให้แก่กัน

ผู้กำกับ: ไมค์ เคฮิลล์ นักแสดง: วิลเลียม มาพอเธอร์, บริท มาร์ลิง