ย้อนเหตุการณ์สำคัญของดาวมิวต์ที่งดงามดั่งเกาะสวรรค์ เหล่าเอเลี่ยนเพิร์ลสวยวิบวับเดินเยื้องย่างอย่างมีจริต วันหนึ่งกลับถูกบุกรุกทำลายอย่างไร้ปราณี ทำให้สองคู่หู วาเลเรียน-ลอเรลรีน ต้องตามพิสูจน์ความจริงจากภารกิจที่ได้รับ ดูการ์ตูนอะนิเมะ
เรื่องย่อ
วาเลเรียน และลอเรลีนป็นเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการพิเศษขององค์การปกครองเขตแดนมนุษยชาติ ทั้งสองจะต้องออกเดินทางไปยังมหานครอัลฟ่า ดินแดนสุดอัศจรรย์ใจกลางอวกาศ ที่มีสิ่งมีชีวิตเป็นหมื่นๆ สปีชีส์จากทั่วทุกมุมจักรวาลอาศัยอยู่ร่วมกัน เพื่อป้องกันภัยร้ายที่จะมาคุกคามจักรวาลและปกป้องผู้คนให้ได้ หรือแบบสั้นก็คือฮีโร่ตำรวจอวกาศฉบับฝรั่งเศสนั่นเอง พอได้ชมแล้วก็เดาได้ว่าลุก เบซง คงจะเคารพต้นฉบับการ์ตูนมากๆ เพราะทุกอย่างมันค่อนข้างตกยุคและเดาทางง่ายเกินกว่าจะเป็นหนังผจญภัยสนุกๆในยุค 2017 (เทียบกันชัดๆก็ Guardian the Galaxy) ซึ่งถ้าจุดประสงค์ของคือทำให้รู้สึกว่ามันเป็นแฟนตาซีไซไฟยุคก่อนจริงๆ ก็ถือว่าสอบผ่าน แถมยังมีจุดเด่นเรื่องอุปกรณ์ไฮเทคแปลกๆหลายอย่างที่หนังแนวนี้ชอบใช้กันมากมายด้วยทำให้รู้สึกตื่นตาดี แต่แม้ว่าเรื่องจะเชยและดูง่ายๆ ก็ไม่ได้รู้สึกว่าจะทำให้ไม่สนุก เพราะหนังเนื้อเรื่องแย่ก็สามารถเล่าให้สนุกได้(อย่างหนังแอ็คชั่นยิงแหลก เนื้อเรื่องไม่มีอะไรเลยแต่สนุกได้เพราะเล่าเรื่องได้มีจังหวะที่ดี) แต่เรื่องนี้กลายเป็นความสนุกเหมือนกราฟนิ่ง ไม่ได้ต่ำตกขอบ แต่ก็ไม่พุ่งสูง ไม่มีเหตุการณ์ที่พุ่งพีคทำให้รู้สึกตื่นเต้น
ด้านงานโปรดักชั่นถือเป็นที่สุดของเรื่องนี้ มีความอลังการเหนือจินตนาการเป็นอย่างมาก ฉากที่ไม่ใช้ CG น้อยมากจนสงสารนักแสดงว่าต้องเล่นกับฉากเขียวและ motion capture อย่างเดียว ต้องขอบคุณสตูดิโอวิช่วลสามเจ้าอย่าง ILM, Rodeo FX และ Weta ที่ช่วยกันสร้างโลกในหนังขึ้นมา
แต่ก็ยังมีความน่าเสียดาย เพราะแม้ว่างานภาพจะอลังการสวยงามมากจนหลายๆเรื่องสู้ไม่ได้ก็จริง แต่กลับนำเสนอบางอย่างได้เสียของ เช่นเมืองอัลฟ่าที่เป็นจุดเด็ดที่สุดของเรื่อง ถูกถ่ายทอดออกมาดูน้อยมากเหมือนกับว่าเป็นแค่เมืองเล็กๆเมืองนึง ทั้งๆที่ใหญ่โตเป็นดาวดวงนึงได้สบายๆ แถมขาดเรื่องราวการนำเสนอที่ทำให้รู้สึกถึงความสำคัญของข้าวของและสถานที่ การแสดงของนักแสดงหลักทั้งคู่อย่างแดน ดีฮาน และคาร่า เดเลวีน เป็นอีกเรื่องที่ทำให้รู้สึกถึงความยังไม่ลงตัว เพราะตามเนื้อเรื่องสองคนนี้นอกจากจะพ่อแง่แม่งอนกันตลอด ยังจะต้องรับ-ส่งหลายๆอย่างด้วยกันเยอะมาก แต่เทเมื่อได้ดูจริงๆพบว่า เคมีนักแสดงไม่ได้เข้ากััน ตามบทสัมภาษณ์ของลุก เบซง บอกเลยว่า วาเลเรียนต้องเป็นแดนเท่านั้น ซึ่งเอาเข้าจริงๆกลายเป็นเล่นแข็งๆ (แย่กว่า The Amazing Spider-Man 2 อีก) รับส่งอะไรไม่ค่อยสัมผัสได้ว่าถึงตัวนางเอกอย่างคาร่าเท่าไหร่ ความทะเล้นความเจ้าชู้ยังดูไม่ค่อยจริงมากนัก แถมความสัมพันธ์ของทั้งคู่ตั้งแต่เริ่มก็ชัดเจนว่ามีเรื่องราวมากมายมาก่อนทำให้พวกเขาสนิทกันมากขึ้น ซึ่งหนังเร่งจุดนี้มากเกินไปหน่อย สังเกตได้ในการใส่เลิฟไลน์มาเยอะ จนรู้สึกว่าเยอะเกินไปในหลายครั้ง เลยรู้สึกว่าถ้าเป็นสองภาค หรือเป็นซีรีส์ตอนๆอาจจะลื่น และอินกับอะไรหลายๆอย่างกว่านี้เยอะ
ถึงผู้เขียนจะค่อนข้างติอยู่หลายด้าน แต่ก็เป็นหนังที่สามารถดูได้เพลินๆแบบสนุกสนานตลอดทั้งเรื่อง มีข้าวของที่ออกแบบได้น่าสนใจและสวยงามเยอะในแบบที่หลายๆเรื่องสู้ไม่ได้ แต่ไม่ได้รู้สึกถึงขนาดที่ว่า “นี่คือสตาร์วอร์ของยุคนี้” แล้วก็มีอะไรที่น่าจะดีกว่านี้ได้เยอะไปสักหน่อย ซึ่งไม่น่าแก้ไขยากนักถ้ามีโครงการที่จะทำต่อในภาคที่สอง
No comments:
Post a Comment